media
media
media

8 สิ่งที่ควรทำในเช้าก่อนสอบ เปลี่ยนเศษคะแนนให้เป็นเกรดสวยๆ


1. โยนความเครียดทิ้งไป!
        เคยสังเกตอาการตัวเองในเช้าวันสอบกันไหมคะ มีอะไรแปลกๆ ไปบ้าง สำหรับพี่เมก้าอาการกลัวข้อสอบชอบถามหาตลอด ตื่นเต้นเหงื่อตก แล้วก็ปวดท้องวิ่งหาห้องน้ำ พลังหมดตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ความจริงแล้วสิ่งที่เราควรทำที่สุดคือทำให้ตัวเองผ่อนคลาย จิตใจสงบ พร้อมสอบอย่างมีสติค่ะ อาจจะเปิดเพลงสบายๆ ฟังตอนอาบน้ำ เตรียมวอร์มสมองให้ไม่เครียด เพราะความเครียดจะทำให้เราใช้สมองหนักขึ้น (เสียเวลาไปโฟกัสจุดอื่นแทนที่จะพยายามทวนสิ่งที่อ่านไปว่าจำอะไรได้บ้าง


2. ขยับแขนขยับขาให้สมองไบรท์
        ถ้าเกิดฟังเพลงแล้วยังไม่หายเครียด แนะนำให้ลุกขึ้นมาออกกำลังกายค่ะ มีงานวิจัยออกมาว่าการออกกำลังกาย แม้จะเพียงแค่ 5 นาที ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองตื่นตัว มีสมาธิที่จะเปิดรับความรู้ต่างๆ ยิ่งถ้าระหว่าง up & down เรานึกคำศัพท์หรือท่องจำสูตรคำนวณต่างๆ ไปด้วย ยิ่งเหมือนได้ออกกำลังกายให้สมองไปพร้อมกันอีก ประโยชน์ 2 ต่อเลยค่ะ


3. ทวนเรื่องสุดท้ายที่อ่านก่อนนอน
        ย้อนกลับไปในคืนสุดท้ายก่อนสอบก่อน ไม่ควรมาอ่านหนังสือหักโหมข้ามวันข้ามคืนในช่วงนี้แล้ว เพราะนี่ควรเป็นคืนที่เราสรุป hilight ของวิชาที่จะสอบ เช่น สอบเคมี บทที่ 1 - 3 เราควรจะสรุปได้ว่าเนื้อหาที่ควรรู้ของแต่ละบทมีอะไร สูตรหรือการทดลองที่สำคัญเป็นแบบไหน ถ้ามีการคำนวณจะแสดงวิธีหาคำตอบอย่างไร ฯลฯ เขียนรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อเก็บไว้ทบทวนอีกครั้งค่ะ


4. ถึงโรงเรียนเช้า ได้เปรียบ!
        วันสอบควรจะไปถึงโรงเรียนเช้าๆ เพราะเราไม่รู้หรอกค่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง วันสอบอาจจะรถติดหนักมากเพราะอุบัติเหตุก็ได้ แทนที่จะได้ทบทวน กลับต้องมานั่งเครียดเพราะกลัวเข้าห้องสอบไม่ทัน ข้อดีของการถึงโรงเรียนเร็วคือเราจะได้หยิบหนังสือมาอ่าน บางคนใช้เวลาหน้าห้องสอบได้คุ้มมาก เปิดอ่านผ่านๆ ให้พอจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มเติมได้ ปรากฏว่าไปฟลุคเจอในข้อสอบ ทำคะแนนได้อีกหลายแต้ม หรือบางคนก็นัดเพื่อนมาอัดเนื้อหาเต็มที่ในตอนเช้าค่ะได้ไกด์ไลน์ไปอีกเพียบ


5. เลือกมื้อเช้าที่สมาร์ทสุด
        อาหารเช้าสำคัญมากนะคะ! การรับประทานอาหารเช้าหลังจากตื่นนอน 1 - 2 ชั่วโมง นอกจากจะช่วยเพิ่มพลังให้ร่างกายแล้ว ยังช่วยให้สมองโลดแล่นอีกด้วย ก่อนสอบเราจึงไม่ควรลืมที่จะเติมพลังด้วยการรับสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นเข้าสู่ร่างกาย ความหิวโหยจะได้ไม่เป็นอุปสรรคในการสอบ อาหารที่น้องๆ ควรหลีกเลี่ยงคือของที่มีโซเดียมสูง ของมัน ของทอด เช่น มาม่าต้ม ไส้กรอกหมู ข้าวมันไก่ทอด ข้าวขาหมู ผัดซีอิ๊ว เบเกอรี่ ฯลฯ เพราะจะทำให้น้องๆ ไปง่วงงุนในห้องสอบ ถ้าให้เลือกเมนูที่สมาร์ท ก็ควรจะเป็นอาหารที่รับประทานแล้วได้สารอาหารครบ 5 หมู่ เช่น ผัดผักรวมมิตร + หมูกระเทียม + ไข่ดาว ตบท้ายด้วยกล้วยหอม นี่เป็นอาหารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและความจำได้ดีค่ะ 


6. เช็กของสำคัญติดกระเป๋า  
       ไม่ใช่แค่บัตรประจำตัวนักเรียน หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการสอบ ที่น้องๆ ต้องเตรียมไปให้พร้อมเท่านั้น แต่ยังมีของอื่นๆ ที่จำเป็นด้วย เช่น น้ำเปล่าที่ช่วยรีเฟรชร่างกายให้สดชื่น (ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ เท่ากับปล่อยให้สมองทำงานช้าลง ขาดสมาธิและมึนงงตามไปด้วย) ผลไม้เปรี้ยวๆ อย่างส้ม แอปเปิ้ล เบอร์รี่ ฯลฯ สอบเสร็จวิชาหนึ่งได้ออกมาจิบน้ำหรือมีของว่างเปรี้ยวๆ กินให้สดชื่น รับรองว่าสติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว ทำข้อสอบแบบกะปรี้กะเปร่าตลอดชั่วโมงแน่


7. เช็กสิ่งที่ต้องทำ/ห้ามลืม
        ก่อนเข้าสอบวิชาต่างๆ ถ้ายังพอมีเวลา ลองมานั่งทบทวนดูค่ะว่า ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะพลาดหรือหลงลืมเรื่องไหน เช่น เลข ชอบลืมแปลงมุมเรเดียนเป็นมุมองศา ก็จดเตือนตัวเองไว้ว่าห้ามลืม ถ้าเจอโจทย์ปุ๊บต้องขีดเส้นใต้ไว้เลย หรือถ้ารู้ตัวว่าทำข้อสอบช้า ก็ตกลงกับตัวเองก่อนว่า ครั้งนี้จะเข้าไปทำข้อที่ง่าย - ปานกลางก่อน ส่วนข้อที่ยากหรือทำแล้วเสียเวลาจะกาดาวเก็บไว้ทำหลังสุด (ทำไปทำมาหัวแล่น เดี๋ยวก็แก้ได้เอง) หรือลืมสูตรฟิสิกส์เรื่องนี้ประจำก็นั่งท่อง ดูวิธีใช้ให้เรียบร้อยไปเลย พอเข้าห้องจะได้รีบจดไว้กันลืมค่ะ เหมือนเป็นการวางแผนกับตัวเองด้วยว่าจะรับมือกับการสอบยังไงฝากไว้สำหรับน้องๆ ที่ชอบเดาทางโจทย์ไว้ก่อน ประมาณว่าอ่านยังไม่ทันจบก็รู้ว่าต้องถามแบบนี้ เลือกฝนคำตอบเลย ระวังอ่านพลาดแล้วโป๊ะนะคะ คำว่าถูกทุกข้อ ใช่กับไม่ใช่ หลอกใครมาเยอะแล้ว 


8. เชื่อความรู้ตัวเองไว้ก่อน
        น้องๆ เคยเป็นแบบนี้ไหมคะ เวลาทำข้อสอบต้องมีสักข้อที่เราตอบแล้วลบเปลี่ยนใหม่ ซึ่งพอออกจากห้องสอบเท่านั้นแหละ คำตอบแรกอะถูกที่เปลี่ยนใหม่ผิด ตั้งแต่นั้นมาเราก็มักจะเตือนตัวเองว่าให้เชื่อสัญชาตญาณแรก ทั้งที่จริงแล้วคำตอบแรกก็ไม่ได้ถูกเสมอไปนะเออ มีงานวิจัยพิสูจน์มาแล้วด้วยว่าคนที่เปลี่ยนคำตอบ ส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนจากคำตอบผิดๆ เพื่อมาคว้าคะแนนคำตอบที่ถูก!ดังนั้น ก่อนเข้าห้องสอบจงเชื่อมั่นในความรู้ของตัวเองเข้าไว้ค่ะ ถ้าเจอข้อสอบที่สร้างความสับสนแบบนี้จริงๆ ก็ให้เช็กก่อนว่า เราอ่านเรื่องนี้มาแม่นยำแค่ไหน ถ้าแม่นเป๊ะๆ ก็เทใจให้คำตอบแรกไปเลย แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ พักคำตอบแรกไว้ก่อนแล้วกลับมาทบทวนช้อยส์อื่นๆ ที่เหลือ ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ


  • Jan 09, 2020
  • Comments: 0
Comments: 0

No comments

Leave a Reply

Your email address cannot be published. Required fields are marked*