media

  ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งทำหน้าที่ต้อนฝูงแกะออกไปกินหญ้าที่เนินเขาเป็นประจำทุกวัน และเขาก็ต้องนั่งเฝ้าเหล่าฝูงแกะ พร้อมคอยปกป้องดูแลไม่ให้หมาป่า
เข้ามาทำร้ายแกะของเขาได้

          จนวันหนึ่งเด็กชายรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องนั่งเฝ้าฝูงแกะเป็นเวลานาน ๆ จึงได้คิดหาเรื่องสนุก ๆ ทำเพื่อคลายเครียด เขาจึงได้แกล้งร้องตะโกนออกไปว่า "ช่วยด้วยจ้า ช่วยด้วยจ้า
หมาป่ามากินแกะของผมแล้ว" พร้อมกับวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนกเข้าไปในหมู่บ้าน

นิทานอีสป

          พวกชาวบ้านได้ยินว่ามีหมาป่ามากินแกะ ก็พากันละทิ้งงานการที่ทำอยู่ และรีบหยิบอาวุธต่าง ๆ ทั้งจอบ มีด และขวานเพื่อออกมาช่วยไล่หมาป่า แต่เมื่อพวกเขาวิ่งไปที่เนินเขา
ก็พบว่าฝูงแกะกำลังกินหญ้าอย่างสบายใจ และไม่เห็นว่าจะมีหมาป่าออกมากินแกะสักตัว

          เจ้าเด็กเลี้ยงแกะเห็นเหล่าชาวบ้านวิ่งกระหืดกระหอบมาที่เนินเขา ก็หัวเราะเยาะและพูดว่า "ฮ่า ๆ ๆ ได้แกล้งหลอกคนนี่มันสนุกจริง ๆ" แต่พวกชาวบ้านที่โดนหลอกต่างรู้สึก
โมโหเป็นอย่างมาก และด้วยความสนุกสนานคึกคะนอง เด็กเลี้ยงแกะจึงยังแกล้งหลอกแบบเดิมอีกหลายครั้ง และพวกชาวบ้านก็วิ่งออกมาช่วยทุกครั้ง แต่ก็พบว่าเป็นเพียงแผนของ
เด็กเลี้ยงแกะเท่านั้น

นิทานอีสป

          จนมาวันหนึ่งได้มีหมาป่าออกมาทำร้ายและไล่กินฝูงแกะของเขาจริง ๆ เด็กเลี้ยงแกะตกใจมาก รีบวิ่งออกไปตามชาวบ้านพร้อมกับร้องตะโกนว่า "ช่วยด้วยจ้า ช่วยด้วยจ้า
หมาป่ากำลังกินแกะของผม" เขาร้องตะโกนให้คนมาช่วยจนเสียงแหบเสียงแห้ง แต่ก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนยอมออกไปช่วยเด็กเลี้ยงแกะเลยสักคน ทั้งยังตอบเขากลับไปว่า
"คราวนี้เจ้าหลอกพวกข้าไม่ได้อีกแล้วล่ะ ไม่มีใครเชื่อเจ้าอีกต่อไปแล้ว"

          เด็กเลี้ยงแกะรู้สึกเสียใจมากที่ไม่มีใครเชื่อเขาเลย ทำให้ฝูงแกะของเขาถูกหมาป่ากินจนหมดฝูง เด็กชายร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า "เพราะข้าไม่ดีเอง
ข้าชอบพูดโกหก แกล้งหลอกคนอื่นเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสนุก แต่สุดท้ายการพูดโกหกของข้ากลับทำให้ข้าเดือดร้อนเสียเอง"


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :

          คนที่ชอบพูดโกหกเป็นประจำ เมื่อถึงคราวที่พูดความจริงก็จะไม่มีใครเชื่อ ซึ่งมีความหมายตรงกับสุภาษิตไทยที่ว่า "เด็กเลี้ยงแกะ" หมายถึงคนที่พูดโกหกจนเป็นนิสัย
จนไม่มีใครเชื่อถือหรือให้ความสนใจกับคำพูดนั้น ๆ ซึ่งหากเด็ก ๆ อยากให้ตัวเองเป็นคนน่าเชื่อถือก็ควรพูดแต่เรื่องจริง ไม่พูดโกหก และไม่แต่งเรื่องที่ไม่ใช่ความจริงขึ้นมาเพื่อหลอกแกล้ง
ผู้อื่น เพราะหากพูดโกหกเป็นประจำ เมื่อถึงคราวที่เราพูดความจริงหรือต้องการความช่วยเหลือ ก็จะไม่มีใครเชื่อเรา ดังเช่นเรื่องราวในนิทานอีสปเรื่องนี้ค่ะ 
  • Jul 28, 2020
  • Comments: 0
Comments: 0

No comments

Leave a Reply

Your email address cannot be published. Required fields are marked*